วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 5

บันทึกอนุทินครั้งที่ 5
รายวิชา : (EAED3214) การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
                Inclusive Education Experiences Management for Early Childhood
ผู้สอน : อาจารย์ ตฤณ แจ่มถิน
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2559
เวลา 08.30 - 12.30 น.


ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ


6. เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้  (Children with Learning Disabilities)

            •  เรียกย่อ ๆ ว่า L.D. (Learning Disability)
            •  เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง
            •  ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อยทางการเรียน เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความพิการ หรือความบกพร่องทางร่างกาย

      สาเหตุของ L.D.
           •  ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัวอักษรออกมาได้ (เชื่อมโยงภาพตัวอักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
           •  กรรมพันธุ์

          1. ด้านการอ่าน  (Reading Disorder)
                   •  หนังสือช้า ต้องสะกดทีละคำ
                   •  อ่านออกเสียงไม่ชัด ออกเสียงผิด หรืออาจข้ามคำที่อ่านไม่ได้ไปเลย ไม่เข้าใจเนื้อหาที่อ่าน หรือจับใจความสำคัญไม่ได้

     ลักษณะของเด็ก L.D. ด้านการอ่าน 
             •  อ่านช้า อ่านคำต่อคำ ต้องสะกดคำจึงจะอ่านได้
             •  อ่านออกเสียงไม่ชัดเจน
             •  เดาคำเวลาอ่าน
             •  อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ อ่านผิดประโยคหรือผิดตำแหน่ง
             •  อ่านโดยไม่เน้นคำ หรือเน้นข้อความบางตอน
             •  ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้
             •  ไม่รู้ความหมายของเรื่องที่อ่าน
             •  เล่าเรื่องที่อ่านไม่ได้ จับใจความสำคัญไม่ได้

          2. ด้านการเขียน  (Writing Disorder)
                    •  เขียนตัวหนังสือผิด สับสนเรื่องการม้วนหัวอักษร เช่น จาก ม เป็น น หรือจาก ภ เป็น ถ เป็นต้น
                    •  เขียนตามการออกเสียง เช่น ประเภท เขียนเป็น ประเพด
                    •  เขียนสลับ เช่น สถิติ เขียนเป็น สติถิ

     ลักษณะของเด็ก L.D. ด้านการเขียน
             •  ลากเส้นวนๆ ไม่รู้ว่าจะม้วนหัวเข้าในหรือออกนอก ขีดวนๆ ซ้ำๆ
             •  เรียงลำดับอักษรผิด เช่น สถิติ เป็น สติถิ
             •  เขียนพยัญชนะหรือตัวเลขสลับกัน  เช่น ม-น, ภ-ถ, ด-ค, พ-ผ, b-d, p-q, 6-9
             •  เขียนพยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้ แต่บอกให้เขียนเป็นตัวๆได้
             •  เขียนพยัญชนะ หรือ ตัวเลขกลับด้าน คล้ายมองจากกระจกเงา
             •  เขียนคำตามตัวสะกด เช่น เกษตร เป็น กะเสด
             •  จับดินสอหรือปากกาแน่นมาก
             •  สะกดคำผิด โดยเฉพาะคำพ้องเสียง ตัวสะกดแม่เดียวกัน ตัวการันต์
             •  เขียนหนังสือช้าเพราะกลัวสะกดผิด
             •  เขียนไม่ตรงบรรทัด ขนาดตัวอักษรไม่เท่ากัน ไม่เว้นขอบ ไม่เว้นช่องไฟ
             •  ลบบ่อยๆ เขียนทับคำเดิมหลายครั้ง

         3. ด้านการคิดคำนวณ  (Mathematic Disorder)
                     •  ตัวเลขผิดลำดับ
                     •  ไม่เข้าใจเรื่องการทดเลขหรือการยืมเลขเวลาทำการบวกหรือลบ
                     •  ไม่เข้าหลักเลขหน่วย สิบ ร้อย
                     •  แก้โจทย์ปัญหาเลขไม่ได้

     ลักษณะของเด็ก L.D. ด้านการคำนวณ
            •  ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขเช่นหลักหน่วยสิบร้อยพันหมื่นเป็นเท่าใด
            •  นับเลขไปข้างหน้าหรือถอยหลังไม่ได้
            •  คำนวณบวกลบคูณหารโดยการนับนิ้ว
            •  จำสูตรคูณไม่ได้
            •  เขียนเลขกลับกันเช่น13เป็น31
            •  ทดไม่เป็นหรือยืมไม่เป็น
            •  ตีโจทย์เลขไม่ออก
            •  คำนวณเลขจากซ้ายไปขวาแทนที่จะทำจากขวาไปซ้าย
            •  ไม่เข้าใจเรื่องเวลา

          4. หลายๆ ด้านรวมกัน

                      อาการที่มักเกิดร่วมกับ L.D.
                               •  แยกแยะขนาดสีและรูปร่างไม่ออก
                               •  มีปัญหาความเข้าใจเกี่ยวกับเวลา
                               •  เขียน/อ่านตัวอักษรสลับซ้าย-ขวา
                               •  งุ่มง่ามการประสานงานของกล้ามเนื้อไม่ดี
                               •  การประสานงานของสายตา-กล้ามเนื้อไม่ดี
                               •  สมาธิไม่ดี (เด็ก L.D. ร้อยละ 15-20 มีสมาธิสั้น ADHD ร่วมด้วย)
                               •  เขียนตามแบบไม่ค่อยได้
                               • ทำงานช้า
                               •  การวางแผนงานและจัดระบบไม่ดี
                               •  ฟังคำสั่งสับสน
                               •  คิดแบบนามธรรมหรือคิดแก้ปัญหาไม่ค่อยดี
                               •  ความคิดสับสนไม่เป็นขั้นตอน
                               •  ความจำระยะสั้น/ยาวไม่ดี
                               •  ถนัดซ้ายหรือถนัดทั้งซ้ายและขวา
                               •  ทำงานสับสนไม่เป็นขั้นตอน

7. ออทิสติก (Autistic)


          •  หรือ ออทิซึ่ม (Autism)
          •  เด็กที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
          •  ไม่สามารถเข้าใจคำพูด ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น
          •  ไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคม
          •  เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง

"ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว"

          •  ทักษะภาษา
          •  ทักษะทางสังคม
          •  ทักษะการเคลื่อนไหว
          •  ทักษะการรับรู้เกี่ยวกับรูปทรง ขนาดและพื้นที่
          •  ติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต


      ลักษณะของเด็กออทิสติก
             •  อยู่ในโลกของตนเอง
             •  ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบใจ
             •  ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน
             •  ไม่ยอมพูด
             •  เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ

เกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติกองค์การอนามัยโลกและสมาคมจิตแพทย์อเมริกา

      ความผิดปกติของปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างน้อย 2 ข้อ
             –  ไม่สามารถใช้ภาษาท่าทางสื่อสารทางสังคมกับบุคคลอื่น
             –  ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลให้เหมาะสมตามวัย
             –  ขาดความสามารถในการแสวงหาการมีกิจกรรม ความสนใจ และความสนุก สนานร่วมกับผู้อื่น
             –  ขาดทักษะการสื่อสารทางสังคมและทางอารมณ์กับบุคคลอื่น
      ความผิดปกติด้านการสื่อสารอย่างน้อย 1 ข้อ
            –  มีความล่าช้าหรือไม่มีการพัฒนาในด้านภาษาพูด
            –  ในรายที่สามารถพูดได้แล้วแต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นบทสนทนาหรือโต้ตอบบทสนทนากับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
            –  พูดซ้ำๆ หรือมีรูปแบบจำกัดในการใช้ภาษา เพื่อสื่อสารหรือส่งเสียงไม่เป็นภาษาอย่างไม่เหมาะสม
            –  ไม่สามารถเล่นสมมุติหรือเล่นลอกตามจินตนาการได้เหมาะสมกับระดับพัฒนาการ
      มีพฤติกรรม ความสนใจ และกิจกรรมที่ซ้ำๆ และจำกัด อย่างน้อย 1 ข้อ
            –  มีความสนใจที่ซ้ำๆ อย่างผิดปกติ
            –  มีกิจวัตรประจำวันหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องทำโดยไม่สามารถยืดหยุ่นได้ ถึงแม้ว่ากิจวัตรหรือกฎเกณฑ์นั้นจะไม่มีประโยชน์
            –  มีการเคลื่อนไหวร่างกายซ้ำๆ
            –  สนใจเพียงบางส่วนของวัตถุ
      พฤติกรมการทำซ้ำ
             •  นั่งเคาะโต๊ะ หรือโบกมือนานเป็นชั่วโมง
             •  นั่งโยกหน้าโยกหลังเป็นเวลานาน
             •  วิ่งเข้าห้องนี้ไปห้องโน้น
             •  ไม่ยอมให้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
      พบความผิดปกติอย่างน้อย 1 ด้าน (ก่อนอายุ 3 ขวบ)
             –  ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
             –  การใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมาย
             –  การเล่นสมมติหรือการเล่นตามจินตนาการ


            Autistic Savant
                     •  กลุ่มที่คิดด้วยภาพ (visual thinker) จะใช้การการคิดแบบอุปนัย (bottom up thinking)
                     •  กลุ่มที่คิดโดยไม่ใช้ภาพ (music, math and memory thinker) จะใช้การคิดแบบนิรนัย (top down thinking)


ทักษะ (Skills)

           -  การสังเคราะห์ข้อมูลความรู้
           -  การคิดและวิเคราะห์
           - การตั้งคำถามและตอบคำถาม

การประยุกต์ใช้ (Application)

          หากอนาคตได้มีโอกาสสอนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ก็จะนำความรู้ในครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้กับการจัดการเรียนรู้ให้เหมาสมตามวัยของเด็กได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพที่สุด

เทคนิคการสอน (Technical Education)

          -  อาจารย์ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางในการจัดการเรียนกาารสอน
          -  อาจารย์ใช้คำถาม ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อการกระตุ้นให้เด็กเกิดการตื่นตัวอยู่เสมอ


การประเมิน (Evaluation)

Self  :  จดบันทึกตามความรู้ที่ได้รับ และร่วมตอบคำถาม

Friends  : ร่วมกันตอบคำถาม สนใจในบทเรียน ไม่กดดัน

Teacher  : สอนตรงประเด็นการศึกษา และเข้าใจง่าย ตรงต่อเวลา





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น